- ตุลาคม 03, 2558
- 0 Comments
Google Doodles วันที่ 29 กันยายน 2558
น่าจะเป็นข่าวใหญ่สำหรับโลกใบนี้เลยนะ กับการค้นพบน้ำและเกลือบนดาวอังคารหน้าแรก Google วันนี้ จึงเปลี่ยนเพื่อเอาใจกับการค้นพบครั้งนี้เลย เป็นรูปดาวอังคารแอบดูดน้ำจนหมด
Google Doodles 29 September 2015. Water found on Mars. |
- กันยายน 29, 2558
- 0 Comments
Google Doodles วันที่ 27 กันยายน 2558
Happy Birthday Google สุขสันต์วันเกิด Googleหน้าแรก Google วันนี้ คงจะเปลี่ยนเพื่อตัวเอง Google ครบรอบ 17 ปีแล้วนะ
Google 17th Anniversary |
- กันยายน 27, 2558
- 0 Comments
Google Doodles วันที่ 2 กันยายน 2558
ตื่นเช้ามาตามความคุ้นเคย ก็ต้องเข้า Google ก่อน เอ๊ะ ไฉนใยหน้าตาของ Logo Google เจ้าจึงเปลี่ยนไปGoogle เปลี่ยน Logo นี้ถือเป็นข่าวใหญ่ของวงการไอทีเชียวนะ เลิกใช้สไตล์ OLD SERIF แต่ยังคง 4 สีหลักอยู่เหมือนเดิม บอกเลยว่า Logo Google ใหม่นี้เก๋อย่าบอกใคร
Google New Logo 2015 |
Official Blog ของกูเกิ้ล ได้ออกแถลงการณ์ว่า เรานำโลโก้ Google และความเป็นแบรนด์ ซึ่งสร้างมาเพื่อเป็นต้นแบบในหน้าเดสก์ท็อป บราวเซอร์ ในหลายดีไวซ์และแตกต่างชนิด inputs กันมากมาย ซึ่งมันคงไม่ได้บอกแค่ว่าคุณกำลังใช้ Goolgle อยู่ แต่มันยังแสดงให้คุณเห็นด้วยว่า Google ทำงานอย่างไร ตัวอย่างเช่น ลูกเล่นใหม่อย่างสีสันใหม่ของ ไมค์ Google ที่จะช่วยคุณค้นหาและมีปฏิสัมพันธ์กับ Goolgle ไม่ว่าจะเป็นพูดคุย, แท็บ หรือพิมพ์ ในขณะที่เราเปลี่ยนตัว “g” เล็กๆ สีฟ้า ให้เป็น “G” 4 สี ซึ่งจะแมทช์กับโลโก้
Google New Logo 2015 |
นอกจาก Logo ใหม่แล้ว เรามาดู Logo อื่นๆ ที่จะปรับเปลี่ยนมาเป็นอย่างทุกวันนี้กัน
Google Logo 1998 |
แลร์รี่ เพจและเซอร์เกย์ บริน ใช้โลโก้นี้ในโครงการจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Stanford ของพวกเขา
Google Logo 30 สิงหาคม 1998 |
ทีมงานจะไปร่วมในเทศกาล Burning Man และได้สร้าง doodle แรกขึ้นเพื่อเป็นข้อความแจ้งว่า "ไม่อยู่ในออฟฟิศ"
Google Logo กันยายน 1998 |
Google ย้ายไปใช้ google.com และเปิดตัวเวอร์ชันเบต้ากับผู้คนทั่วโลก
Google Logo พฤษภาคม 1999 |
เปลี่ยนอีกครั้งแต่ยังคงความขี้เล่น โลโก้ดูซับซ้อนมากยิ่งขึ้นโดยใช้แบบอักษร Catull
Google Logo พฤษภาคม 2010 |
Logo ดูสว่างขึ้นและเล่นกับเงาตกกระทบลดลง อย่างที่เห็นเงาจะอยู่ติดกับตัววัตถุมากขึ้น ทำให้ตัว Logo ไม่ดูลอยออกมา
Google Logo กันยายน 2013 |
คราวนี้ Logo จะดูแบนและมีการปรับแต่งตัวพิมพ์บางส่วน
เป็นไงบ้างหละกับโลโก้ใหม่ ตอนนี้อาจจะดูแปลกๆ อีกเดี๋ยวก็คงคุ้นตา เพราะตอนนี้เห็นโปรดักส์หลายๆ ตัวของ Google เริ่มทยอยเปลี่ยน
- กันยายน 02, 2558
- 0 Comments
ที่มาของแรงบันดาลใจ สิงหาคม 2558
พอได้ข่าวว่าสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจจะพิมพ์หนังสือน้อยลง ด้วยเพราะกำไรหายไปเยอะแต่จะหันไปทำ e-book แทนรู้สึกใจหายไปแป๊บ คงเพราะเราโตมากับหนังสือการ์ตูนของสำนักพิมพ์นี้ด้วยกระมัง หลายต่อหลายเล่มของที่นี้ให้แรงบันดาลใจ จุดไฟฝัน สร้างสรรค์จินตนาการ มันเลยอดคิดไม่ได้ว่าต่อไปจะเป็นเช่นไร
เราเลยเอาหนังสือเก่าๆ ของสำนักพิมพ์นี้มาให้ดูกัน ไม่ใช่ดักแก่น่า เริ่มเลยละกัน
The Zero |
ถ้าไม่พูดถึงเล่มนี้เลยคงไม่ได้ The Zero เป็นการ์ตูนรายสัปดาห์ เรื่องเด่นๆ ที่ติดตามเลยก็ Dragon Ball, City Hunter เคยส่งแบบหัวหนังสือไปประกวดด้วย ตอนที่ The Zero ประกาศประกวดหัวหนังสือ
GAMES |
ตามมาด้วย GAMES เป็นการ์ตูนรายสัปดาห์เหมือนกัน เรื่องที่ติดตามเลยก็คเป็น Yaiba, เทปเป และก้าวแรกสู่สังเวียน (อิปโปมันอึดจริงๆ จนถึงป่านนี้ยัไม่เลิกต่อย) GAMES จะเน้นการ์ตูนทางกีฬา
มาเรียนเขียนการ์ตูนกันเถอะ |
และแน่นอนมาอ่านการ์ตูนจนมาถึงจุดนึง เด็กน้อยทุกคนก็อยากวาดการ์ตูนของตัวเอง แต่ความรู้ด้านนี้ไม่รู้จะไปหาที่ไหนกัน จนมาได้เล่มนี้ มาเรียนเขียนการ์ตูนกันเถอะ โทริยาม่า อากิระ คนวาด Dragon Ball มาสอนเองเลยนะ เป็นความรู้เบื่องต้นสำหรับคนที่อยากเป็นักเขียนการ์ตูน อาทิ การเขียนเนม เขียนวางแผนเนื้อเรื่องเพื่อกำหนดหน้า อุปกรณ์ เด็กๆ ที่อยากเป็นนักเขียนการ์ตูนแทบจะมีกันทุกคน
ลายเส้น |
เรียกได้ว่าหนังสือการ์ตูนลายเส้น เป็นต้นกำเนิดของ Thai Comic เป็นหนังสือที่ทำให้เด็กมีที่ปล่อยของกัน ในยุคที่ยังไม่มีอินเตอร์เนต การจะโชว์ฝีมือนั้นก็ต้องหาที่ปล่อย สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจก็สร้างพื้นที่นี้ขึ้นมา
Thai Comic |
จบจากยุคลายเส้น ก็มาสู่ยุค Thai Comic บอกตามตรงเราดีใจที่ได้เห็นหนังสือการ์ตูนของคนไทยที่ออกเป็นรายเดือน ติดตามอยู่หลายปีจนหน้าที่ปรับเปลี่ยนทำให้ไม่สามารถติดตามได้ต่อเนื่อง
TOUCH |
เรื่อง TOUCH เป็นการ์ตูนในดวงใจ หยิบมาอ่านตอนนี้ก็สนุกอยู่ จะเรียกได้ว่ารู้จักกีฬาเบสบอลเพราะการ์ตูนเรื่องนี้ก็ได้ ความคลาสสิคของปกการ์ตูนเล่มนี้ คงอยู่ที่การบอกเวลาและช่องทีวีที่ฉาย ตอนนั้นก็ติดงอมแงมอยู่ ที่สันหนังสือจะบอกปีที่พิมพ์ด้วย
หากปรับเปลี่ยนเป็น e-book แล้ว คงได้ติดตามน้อยลง แต่เป็นแรงบันดาลใจที่ได้จากสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจนั้นยังคงอยู่
- สิงหาคม 28, 2558
- 0 Comments
ทำภาพให้คมชัด เพื่อลงเว็บ
คราวนี้เอาเทคนิคง่ายๆ แต่สำคัญมากสำหรับคงที่ชอบอัพรูปลงเวบเลยหละ เราจะทำให้รูปคมชัดและสวยใสก่อนอวดรูปหลายคนเวลาทำรูปมาลงเวบ ก็เล่นง่ายๆ เลย ย่อให้ได้ขนาดตามที่ต้องการแล้วโพสต์เลย โดยไม่รู้กันบ้างเลยว่า ในการย่อภาพลงทุกครั้งรายละเอียดในภาพจะเสียไปทำให้ภาพที่เราย่อลงมา มีความคมชัดไม่เท่ากับต้นฉบับเดิม (ภาพแตก)
ปัญหานี้จะหมดไปด้วยเทคนิคง่ายๆ ต่อไปนี้
ดังตัวอย่าง A
ดังตัวอย่าง A |
ใช้คำสั่ง Unsharp mask |
ใน ตัวอย่าง B เป็นการย่อภาพจากต้นฉบับขนาด 3800 Pixels ลงมาเหลือ 800 Pixels ในครั้งเดียว แล้วใช้คำสั่ง Unsharp Mask ที่ 500/0.2(ดูภาพประกอบด้านล่างครับ) จะเห็นว่าภาพคมขึ้นมากว่าภาพ A อย่างเห็นได้ชัด
ตัวอย่าง B |
ภาพตัวอย่างแสดงวิธีการย่อขนาดภาพ
การย่อขนาดภาพ |
เช่น
3800 pixels —– Image size —-> 3000 Pixels / Unsharp mask -amount 200 / Radius 0.2 /Threshold 0
3000 pixels —– Image size —-> 2500 Pixels / Unsharp mask -amount 200 / Radius 0.2 /Threshold 0
2500 pixels —– Image size —-> 2000 Pixels / Unsharp mask -amount 200 / Radius 0.2 /Threshold 0
2000 pixels —– Image size —-> 1500 Pixels / Unsharp mask -amount 200 / Radius 0.2 /Threshold 0
1500 pixels —– Image size —-> 800 Pixels / Unsharp mask -amount 500 / Radius 0.2 /Threshold 0
การย่อขนาดภาพ 2 |
ครั้งสุดท้ายอาจจะเพิ่ม amount เป็น 500 เพื่อความคมชัดมากขึ้น
การย่อขนาดภาพ 3 |
จากภาพตัวอย่าง C จะเห็นว่าภาพจะคมชัดขึ้นอีก ระดับหนึ่ง มีความลึกมากขึ้น และสามารถเก็บรายละเอียดในส่วนมืดได้ดีขึ้น ดูจากบริเวณที่ เขียนชื่อเวปไว้ในภาพ ในเงากระจกจะเห็นรายละเอียดอยู่
ตัวอย่าง C |
คราวนี้หวังว่าทุกคนจะมีภาพสวยๆคมๆ มาโพสต์กันนะครับ
ภาพทั้งสามตัวอย่าง |
- สิงหาคม 17, 2558
- 0 Comments
Google Doodles วันที่ 12 สิงหาคม 2558
12 สิงหาคม ของทุกปี ชาวไทยทุกท่านคงจะทราบกันดีว่าเป็น "วันแม่แห่งชาติ" และวันสำคัญนี้ก็เวียนมาครบรอบปีมาอีกครั้งGoogle จึงเปลี่ยนหน้าแรกเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมเลยหละ มาในปีนี้มาเป็นซีรี่ย์เลย หากเปรียบเที่ยบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นรูปที่คุณแม่กำลังเล่านิทานให้ลูกๆ ฟังอยู่ (สามารถเข้าไปดูของปีที่แล้วได้โดย คลิกที่นี่) ปีนี้มันก็ยังดูอบอุ่น
นอกจากมนุษย์แล้ว ความเป็นแม่นั้นมีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
Google Doodles 12th August 2015 |
Google Doodles 12th August 2015 - 01 |
Google Doodles 12th August 2015 - 02 |
Google Doodles 12th August 2015 - 03 |
Google Doodles 12th August 2015 - 04 |
Google Doodles 12th August 2015 - 05 |
Google Doodles 12th August 2015 - 06 |
Google Doodles 12th August 2015 - 07 |
Google Doodles 12th August 2015 - 08 |
วันแม่อย่าลืมรักแม่คนอื่นด้วยหละ ส่วนแม่ของเรานั้น วันแม่คือทุกๆ วันอยู่แล้ว ^^
- สิงหาคม 12, 2558
- 0 Comments
การสร้างลายเซ็น
หากต้องการให้งานของเราเป็นที่จดจำ สิ่งหนึ่งที่เราควรมี คือ เอกลักษณ์เฉพาะตัว จะเรียกว่าเป็นลายเซ็นของเราเองก็ได้มารู้จักลายเซ็น ลายเซ็นคือ เทคนิคในการสร้างภาพ เช่นการใช้เส้น การใช้สี องค์ประกอบภาพต่างๆ แนวการ process มุมมอง หรือวิธีสื่อสาร หรืออุปกรณ์ที่เราใช้ เช่นกล้องรุ่นที่ใช้ประจำ เลนส์ หรือช่วงเลนส์ที่ใช้ ดอลลี่ โดรน housing เม้าส์ปากกา หรืออุปกรณ์อะไรก็ตาม
พอเราใช้สิ่งเหล่านี้ซ้ำๆ บ่อยๆ ในงานของเราจนเป็นเอกลักษณ์ ลูกค้าจะเริ่มจำงานของเราได้ การพยามทำอย่างงี้กับทุกรูป ที่อัดลงพอร์ท มันก็คือ branding หรือการสร้าง brand นั่นเองครับ
เมื่อ brand ของเราเริ่มแข็ง สิ่งที่ตามมาก็คือ brand loyalty (ความจงรักภักดีในตราสินค้า) ซึ่งจะก่อให้เกิด สาวก หรือ follower ขึ้นนั่นเองครับ
Q : การมี follower เยอะๆ มีประโยชน์อย่างไร
A : ทำให้ภาพขายดี และมีโอกาสติด pop ง่ายขึ้นครับ
Q : ทำไมถึงบอกว่า การมี follower เยอะทำให้ภาพขายดี และติด pop
A : follower คือคนที่ติด brand ของเราแล้วครับ ถึงแม้ว่าของที่เราทำออกมาขาย จะเหมือนๆ กับคนอื่น (keyword เดียวกัน หรือภาพหัวข้อเดียวกัน) แต่ลูกค้าก็ยังตามมาซื้อของเราอยู่ดี หรือ case ที่ผมเคยเจอก็คือ ถึงแม้รูปที่เราวาด (vector) จะไม่ตรงกับหัวข้อที่เขาต้องการ แต่เขาก็พยามจะเอาไปใช้อยู่ดี เห็นแล้วก็งงเหมือนกันว่า เฮ้ย เอาไปใช้แบบนี้ได้ด้วยเหรอ follower พวกนี้เขาจะเข้ามาดูงานเราประจำ พอมีรูปเข้าพอร์ทปุ๊บ ก็มาโหลดปั๊บ ทำให้ยอดโหลดต่อวันค่อนข้างสูง ถ้ามียอดโหลดสูงต่อเนื่องกันซักประมาณ 4-5 วัน ระบบจะคิดว่าเป็นรูปขายดี เลยเอาไปไว้หน้าแรก ทีนี้ยิ่งทำให้เกิดอุปทานหมู่ คือคนที่ไม่ใช่ follower ก็จะมาโหลดอีก ทีนี้ก็ติดหน้า pop กันยาวๆ เลยครับ
Q : อยากวาด vector ขาย แต่วาดอะไรออกมา หน้าตาก็ไปเหมือนคนอื่นที่มีอยู่แล้วในสต๊อกไปซะหมด จะทำยังไงดี เทคนิคส่วนตัวที่ใช้ในการสร้างลายเซ็นคืออะไรบ้าง
A : ไม่ว่าจะเราวาดอะไรมัน ก็ไปเหมือนไปซ้ำกับคนอื่นซะหมด จะไม่ให้เหมือนใครเลยมันก็ยากอยู่ครับ เพราะทั้งโลกเขาก็วาดกันมาหมดแล้วจริงๆ แหละ ผมแนะนำอย่างงี้ครับ
วาดให้เหมือนก่อน แล้วค่อยเติมตัวตนของตัวเองลงไปให้แตกต่าง โดยทำแบบนี้ครับ
ไป save รูปแนวที่ชอบ จาก pinterest, dribbble, behance มาเยอะๆ ให้เต็ม folder แล้วมานั่ง list ว่า มีทรงผมกี่แบบ มีตา จมูก ปาก แขน ขา กี่แบบ แล้วมาเลือกว่า เราชอบหู ตา จมูก ปากแบบไหน ก็เอามาใช้
ทีนี้เราก็จะได้งานแบบมาตรฐาน ที่คล้ายกับงานของพวกฝรั่งๆ ที่เรา save มาละคับ จากนั้นก็เอามาเติมตัวตนของเราลงไป เช่น บางคนชอบหมวก ชอบรองเท้า ชอบจักรยาน ก็ใส่ลงไปในงานเรา บางคนตัวการ์ตูนฟันเหยิน บางคนมีเครา บางคนใส่แว่น คือชอบอะไรก็ใส่ลงไป เช่น ผมชอบเฟอร์นิเจอร์แบบ อเมริกันอินดัสเทียล ก็เอามาใส่ในงาน ทำให้งานเราดูโดดเด่นขึ้นกว่าคนอื่น คนอื่นเขาโต๊ะเก้าอี้ธรรมดา ของเรามี style กว่า ดู cool ดูเท่ห์กว่า อะไรประมาณนี้ครับ หรือบางตัวเป็น hipster มีเครา มีรอยสัก ขี่จักรยาน fixed gear อะไรพวกนี้ จะทำให้เราแตกต่างจากงานคนอื่นที่มีในท้องตลาด ทำให้เรามีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใครครับ
เอาไว้เตือนใจสำหรับตัวเอง (*´▽`*)
เครดิตภาพและบทความจาก : Ekkrub Cm
- กรกฎาคม 30, 2558
- 0 Comments
ทำรูปแนวไหนขายดี
เคยสงสัยบ้างไหมว่าต้องส่งรูปแนวไหนและต้องทำยังไงถึงจะขายดี วันนี้เลยนำการวิเคราะห์ตลาดด้วย 5Ws+1H มาฝากการวิเคราะห์ตลาด จริงๆ แล้วก็คือการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า (ที่จริงประกอบด้วยลูกค้า คู่แข่ง กับสถานที่ด้วย แต่เราเน้นที่ลูกค้า)
เทคนิคการวิเคราะห์ตลาด |
ถ้าเราทำงานอยู่ในบริษัท จะมีคนไปรับ requirement จากลูกค้า แต่ในงานสต๊อก ไม่มีใครมาบอกเรา ว่าลูกค้าต้องการอะไร เราต้องวิเคราะห์เอาเองนะครับ ...
ถ้าถามว่า การวิเคราะห์ตลาดจำเป็นแค่ไหน ก็ลองนึกดูว่า ถ้ามีคนมาจ้างเราทำงาน โดยที่ไม่บอกอะไรเลยว่าเขาต้องการอะไร ให้เราทำไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะถูกใจ เราอาจจะต้องทำภาพออกมาเป็นร้อยภาพ เพื่อที่จะให้เขาถูกใจซักใบนึงก็ได้ครับ ...
ดังนั้นการวิเคราะห์ตลาด จะทำให้เราทำงานมีประสิทธิภาพ และก็ไม่เหนื่อยด้วยครับ 5Ws+1H ก็คือ Who, What, Where, When, Why + How ครับ
ก่อนทำรูป เราต้องคิดหัวข้อ หรือชื่อรูป หรือเรื่องที่จะทำก่อน แล้วลองคิดว่า ลูกค้าของเราคือใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม อย่างไร ยิ่งเราตอบคำถามเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ ก็แสดงว่า กลุ่มลูกค้าเรามีมากขึ้นเท่านั้น
เช่นถ้าเราจะไปถ่ายรูป สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น หรืออาหารญี่ปุ่น แล้วลองตอบคำถามต่อไปนี้ดู
Who
คือ คนที่ใช้รูปของเราจะเป็นใครได้บ้าง เช่น บริษัท องค์กรณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว, เพจ หรือบริษัททำหนังสือ นิตยสาร แนะนำร้านอาหาร หนังสือท่องเที่ยว เราก็จะรู้แล้วว่าลูกค้าเรามีมากน้อยแค่ไหน ใครจะมาเป็นลูกค้าเราได้บ้างWhat
เขาเอางานเราไปทำอะไร เช่น เอาไปทำหนังสือ ทำนิตย์สาร ทำเว็ปไซด์ เราก็จะรู้ว่า รูปเราควรมีลักษณะยังไง กว้างยาวเท่าไหร่ อยู่ส่วนไหนของนิตยสาร เต็มหน้า เป็นปก หรือต้องเหลือ space ไว้สำหรับ wording ด้วยรึปล่าว หรือเอาไปทำ web ถ้าอยู่บริเวณที่เรียกว่า slider ก็จะมี ratio ของภาพเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ เวลาถ่ายรูป หรือวาดรูป จะได้วางคอมโพสของภาพนั้นๆ ถูกครับWhere
ตอบได้ว่า เราต้องไปถ่ายรูป (หรือวาด) ที่ไหน หรือว่าเค้าจะเอางานเราไปใช้ที่ไหน เช่น ถ้าเขาจะเอารูปเราไปใช้ในนิตยสารท่องเที่ยว ถ้ากะจะให้ลูกค้าเหมางานเป็นชุด เราก็ต้องไปถ่ายพวก landmark หลักๆ ในเมืองนั้นให้ครบ หรืออาหาร หรือสัญลักษณ์ประจำเมืองนั้น หรือถ้าถ่ายรูปท่องเที่ยวในเมืองไทย ให้เขาเอาไปใช้ที่เมืองนอก เราก็ต้องถ่าย/วาด รูปออกมาในมุมมองของนักท่องเที่ยวลองดูหนังสือท่องเที่ยวดูก็ได้ครับ เขาอาจแนะนำเรื่องอื่นๆ อีก นอกจากเรื่องสถานที่ เช่นการแต่งกายในวัด มารยาทที่ควร หรือไม่ควรทำ ต้องถอดรองเท้า หรืออะไรทำนองนี้อ่าครับ จากเดิมที่เคยไปถ่ายแต่วัด แต่อาคารสถานที่ ทีนี้เราก็มีหัวข้อให้เก็บเพิ่ม เพื่อจะได้ครอบคลุมเนื้อหาให้เหมาะกับที่ๆ เขาจะเอารูปเราไปใช้ละครับ
When
คือเมื่อไหร่ เช่นเขาจะเอารูปเราไปใช้เมื่อไหร่ คริสมาส ปีใหม่ ตรุษจีนฮาโลวีน หรือเราควรไปถ่ายรูปนี้เมื่อไหร่ เช่น ญี่ปุ่นมี 3 เวลา ช่วงขาวหิมะ ช่วงซากุระ ช่วงดอกไม้หลากสี เป็นต้นครับWhy
แล้วทำไมลูกค้าถึงต้องมาซื้อของเรา เรามีจุดแข็งอะไร เช่น เรา process สวยกว่าคนอื่น หรือรูปเราหายาก หรือมุมมองไม่ซ้ำคนอื่น หรือมีภาพชุด หรือมีเทคนิคบางอย่างโดดเด่นกว่าคนอื่น ยิ่งตอบได้หลายข้อ ก็ยิ่งมีโอกาสทำให้ขายดีมากเท่านั้นครับHow
ทำยังไงแล้วต้องทำยังไง สิ่งที่กล่าวมาในหัวข้อต่างๆ กล่าวมา มันถึงจะเกิดขึ้นได้ ... ก็ต้องเริ่มวางแผน และลงมือทำกันละครับยิ่งมีหลายคำตอบมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีนะครับ เพราะมันแสดงว่า งานของเรา มีคุณค่าเชิงพาณิชย์มากเท่านั้น หรือที่เรียกว่า comercial value นั่นเองครับ Agent ก็ชอบ ตรวจเมื่อไหร่ก็ผ่าน ลูกค้าก็ชอบ ยิ่งตอบโจทย์ได้มาก แสดงว่าลูกค้ายิ่งเอาไปใช้ได้มาก ขายดีเลยละครับทีนี้ มีไม่กี่ร้อยรูป ก็สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือนได้
แต่ถ้าตอบไม่ได้ว่าใคร จะเอารูปเราไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ เรายังนึกไม่ออก ตอบไม่ได้ มันก็เหมือนเหนื่อยฟรีเลยครับ มีรูปในพอร์ทตั้งเยอะ ได้เงินไม่เท่าไหร่ ไม่คุ้มกับแรง กับเงิน กับเวลาที่เสียไป
เสียเวลาวิเคราะห์นิดนึง แล้วจะทำงานสบาย และมีประสิทธิภาพขึ้นเยอะครับ ทำงานน้อยๆ แต่ก็ยังได้เงินเยอะ จะได้มีเวลาเหลือเยอะๆ เอาไว้ใชชีวิต ไปเที่ยว ไปอยู่กับครอบครัว ไปอยู่กับคนที่เรารัก หรือช่วยเหลือผู้อื่นกันครับ
มีไม่กี่อาชีพที่จะสนุก มีอิสระ และสุขสบาย เหมือนอย่างพวกเรานะครับ มาโกยเงินล้านเข้าประเทศกันดีกว่าครับ เย้ๆๆ ^o^
เอาไว้เตือนใจสำหรับตัวเอง (*´▽`*)
เครดิตภาพและบทความจาก : Ekkrub Cm
- กรกฎาคม 15, 2558
- 0 Comments
8 วิธีทำให้คนสนใจงานออกแบบของคุณ
ฟรีแลนซ์เอยจงรู้ไว้ เรามาเปลี่ยนวิธีคิดกันใหม่เถอะ จากที่เราเคยส่งเมลตัวอย่างงานที่เคยทำ มาเป็นสร้างงานให้ลูกค้าสนใจกันเรามี 8 วิธีที่จะทำให้เรามีคุณค่า งานของเราจะมีราคาขึ้น บทความทั้งหมดนี้เอามาจากเวบไซต์ http://grappik.com ขอขอบคุณบทความดีๆ มา ณ ที่นี้ด้วย
1. Share งานของคุณให้คนอื่นได้เห็น
มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะเก็บงานสวยๆ ของคุณไว้ดูเพียงคนเดียว นี่เป็นขั้นตอนแรก และขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้มีคนสนใจงานออกแบบของคุณ Share งานที่ดีที่สุดของคุณออกมาในแต่ละงานควรจะมี Screenshot ภาพงานสวยๆ ของคุณ และ Wireframe ที่บอกถึงรายละเอียดของงาน และที่สำคัญคือ อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นชื่อคุณ Logo หรืออะไรก็ตามที่โฆษณา ตัวคุณได้2. ทำ Portfolio ให้ดูดี
Portfolio คือคำที่เราได้ยินมานาน ซึ่งมันสำคัญมากสำหรับคนทำงานออกแบบ ซึ่ง Portfolio ก็เปรียบเหมือนใบเกรดนั่นเอง มันจะแสดงได้ว่าคุณภาพของคุณมีมากแค่ไหน ตรงนี้อยากจะแนะนำคนที่กำลังจะเรียนจบว่า Portfolio สำคัญมากๆ สำหรับการหางานครับ ใครที่ไม่มี Portfolio แทบจะสู้คนที่มีไม่ได้เลย เพราะบริษัทจะไม่รู้เลยว่าคุณทำงานได้แค่ไหน ซึ่งเราอยากจะแนะนำว่า– ใส่ผลงานเด่นๆ ของคุณลงไปซะ
– ทำ Case Studies ของงานนั่นๆ พูดถึง Concept แนวคิดต่างๆ ปัญหา สิ่งที่พบเจอในตอนทำงาน หรืออะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับกระบวนการทำงานนั่นๆ
– สร้าง blog และเขียนเกี่ยวกับ Design เขียนเรื่องที่เกี่ยวกับตัวคุณในแบ่งปันมันใน Design Community
– ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณและแนวทาง หรือวิธีการทำงานที่คุณชื่นชอบ โปรแกรมที่ถนัด
3.โปรโมทตัวคุณให้โลกได้รู้
การตลาดเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ ซึ่ง Freelance ก็เช่นกัน Share งานของคุณให้โลกได้เห็นซะโดยผ่าน social networks ต่างๆ ที่เดี๋ยวนี้มีมากมายเหลือเกิน มันอาจจะเป็นเรื่องยากในตอนแรกๆ ที่งานคุณยังน้อย แต่เชื่อเถอะ Share มันออกไปซะ เราจะแนะนำ social networks ที่เกี่ยวกับคนทำงานออกแบบให้เราได้ Share ผลงานออกไปก็จะมี– Dribbble – Show and tell for designers
– Behance – Online Portfolios
– Instagram – Capture and Share the World’s Moments
– Pinterest – is a visual discovery tool
ทั้งหมดนี้ข้าพเจ้ามีหมดทุกช่องทางนะ
4. คุยกับคนที่ภาษาเดียวกัน
อย่าหมกตัวแต่ในถ้ำ ออกไปพบปะผู้คน พูดคุยกับคนภาษาเดียวกันบ้าง ภาษาในข้อนี้คือ ภาษาในการออกแบบนั่นเอง เราควรจะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับ Designer คนอื่นให้มากๆ นอกจากจะได้ connection แล้วยังได้ความรู้ใหม่ๆ สไตล์การออกแบบหรือวิธีการทำงานใหม่ๆ จากคนอื่น แถมบางทียังได้งานจากคนอื่นๆ มาทำอีกด้วย5. สร้างโปรเจคของคุณขึ้นมา
คนที่ทำงานโปรเจคของตัวเองจนมีชื่อเสียงโด่งดังก็มีเยอะแยะ แล้วทำไมเราจะดังบ้างไม่ได้ละ ? ถ้าคุณมีไอเดียดีๆ ในการทำโปรเจคอะไรสักอย่าง ก็ลงมือทำมันซะ มันเป็นวิธีที่ดึงดูดผู้คนให้มาสนใจงานของคุณ แถมยังได้ผลงานเป็น Portfolio เก็บเอาไว้ใช้งานได้ด้วย ซึ่งมันไม่มีข้อเสียหรอกครับในการทำโปรเจคของเราเองขึ้นมา มีแต่ได้กับได้ เช่น พวกบทความติวเตอร์ต่างๆ6. เขียน…
เขียนเรื่องราว ความรู้ หรือเทคนิคต่างๆ เขียนเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงาน เขียนเรื่องเป้าหมายของคุณ หรือโปรเจคงานออกแบบที่กำลังจะทำ เขียนเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนติดตามคุณมากๆ คุณจะเป็นที่รู้จักและพวกเขาสามารถช่วยคุณได้แน่นอน7. มีส่วนร่วม (ภาษาชาวบ้านก็ เผือก นั่นเอง)
มีส่วนรวมกับข่าวการออกแบบ หรือเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับงานออกแบบ เข้าไปโพส ไปเม้น พูดคุยเกี่ยวกับงานออกแบบกับ Designer คนอื่นๆ ทั้งใน Facebook twitter instagram ไปเข้าร่วมพวกงานออกแบบที่จัดตามที่ต่างๆ เพื่อพบกับผู้คนให้มากๆ รู้จักคนให้มากๆ8. สอน
การสอนเรื่องที่คุณถนัด นอกจากจะเป็นการทบทวนความรู้ หรือหาความรู้ที่คุณอยากจะรู้ เผื่อมาสอนคนอื่น มันเป็นการปรับปรุงทักษะส่วนตัวของคุณ การแบ่งปันประสบการณ์การทำงาน การออกแบบของคุณที่ผ่านๆ มา จะช่วยให้ผู้คนรู้จักคุณได้มากขึ้นและส่งผลดีกับงานของคุณอย่างแน่นอน เช่น พวกคอร์สสัมนาหรือการใช้ปรแกรมต่างๆเอาไว้เตือนใจสำหรับตัวเอง (*´▽`*)
เครดิตภาพและบทความจาก : http://grappik.com
- กรกฎาคม 11, 2558
- 0 Comments
Google Doodles วันที่ 7 กรกฎาคม 2558
เปิด Google มาวันนี้แทบกรี๊ด มีอุลตร้าแมนอยู่หน้าแรก ก็พอเดาออกหละว่าวันนี้น่าจะเป็นวันเกิดใครไปไม่ได้นอกซะจาก “เอจิ สึบุระยะ” ผู้ให้กำเนิด ยอดมนุษย์อุลตร้าแมนGoogle Doodles 7 July 15 | Eiji Tsuburaya |
เอจิ สึบุระยะ (Eiji Tsuburaya) นอกจากจะเป็นผู้ให้กำเนิดอุลตร้าแมนแล้ว แกยังเป็นผู้ให้กำเนิดก็อตซิลล่าด้วยนี่สิ วันนี้ก็คล้ายวันเกิดครบรอบ 114 ปี ถ้าหากเขายังมีชีวิตอยู่
เอจิ สึบุระยะ (Eiji Tsuburaya) ยังถือเป็นคนแรกๆ ของญี่ปุ่นที่นำเอาเทคนิคพิเศษเข้ามาใช้ในการถ่ายทำ ไอ้พวกใส่ชุดยาง พวกถล่มตึกปลอมแกเป็นคนแรกๆ เลยนี้แหละที่ทำ
Eiji Tsuburaya gave birth to Ultraman |
เอจิ สึบุระยะ (Eiji Tsuburaya) เกิดเมื่อ 7 กรกฎาคม 2444 เสียชีวิตเมื่อ 25 มกราคม 2513 เมืองอิโต จังหวัดชิซุโอะกะ
ความเท่อีกอย่างของ Google วันนี้คือเราสามารถสร้างหนังอุลตร้าแมนของเราได้ ขอบอกอย่าพลาดสนุกมากกกกกกก ^^
- กรกฎาคม 07, 2558
- 0 Comments
ขนาดของภาพที่ใช้สำหรับ Social Media ยอดฮิต
ใน Social Media แต่ละตัวมีการแสดงภาพไม่เหมือนกัน บางอันก็ปรับเปลี่ยนในแต่ละตำแหน่งที่รูปนั้นอยู่เอาขนาดภาพที่ใช้ใน Social Media ยอดฮิต แต่ละตัวมาให้ดูกันง่ายๆ เวลาจะอับโหลดภาพจะได้ครอปถูก
ยอดฮิตก่อนเลยกับ Facebook |
แอฟถ่ายรูปยอดฮิต Instagram |
LinkedIn อีกตัวที่ฮอตฮิต |
Twitter กับ 140 ตัวอักษรอันทรงพลัง |
เครดิตภาพจาก : Sumall.com
- มิถุนายน 25, 2558
- 0 Comments
Google Doodles วันที่ 26 พฤษภาคม 2558
วันนี้ Google หน้าแรกก็เปลี่ยนอีกแล้วนะ เดือนนี้รู้สึกเปลี่ยนบ่อยจัง คราวนี้เป็นนักบินอวกาศหญิงซะด้วยGoogle Doodles 26 May 15 | Sally Kristen Ride |
แซลลี่ ไรด์ ( Sally Kristen Ride ) คือเธอวันนี้ที่ Google ให้เกียรติเป็นหน้าแรก แล้ว แซลลี่ ไรด์ ( Sally Kristen Ride ) คือใครหละ
หลังจากลองค้นหาประวัติแล้วจึงทราบว่า แซลลี่ ไรด์ ( Sally Kristen Ride ) นักบินอวกาศหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
วันที่ 26 พฤษภาคม เป็นวันคล้ายวันเกิดของ (ครบรอบวันเกิด 64 ปี) แซลลี่ ไรด์ ( Sally Kristen Ride ) และคงเป็นคนสำคัญหละ เพราะ Google ทำหน้าแรกไว้หลายแบบมาก สำหรับวันนี้วันเดียวนะนี่ คงเพราะเธอเป็นคนที่ให้แรงบันดาลใจที่ดี เราไปดูแบบอื่นๆ ของ Google สำหรับวันนี้กัน
Google Doodles 26 May 15 | Sally Kristen Ride |
Google Doodles 26 May 15 | Sally Kristen Ride |
Google Doodles 26 May 15 | Sally Kristen Ride |
Google Doodles 26 May 15 | Sally Kristen Ride |
อย่างที่มีคนเคยกล่าวไว้ ว่าครูที่ดีนั้นไซร้ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ศิษย์ ^^
- พฤษภาคม 26, 2558
- 0 Comments