สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๗

หลงรักกาแฟ

ชอบดื่มกาแฟไหม เราเป็นคนนึงหละที่ชอบดื่มกาแฟ จะบอกว่าติดเลยก็ได้นะ นอกจากจะติดใจในกลิ่นที่หอมและรสชาติขมขม บรรยากาศในร้านกาแฟก็เป็นอีกสิ่งนึงที่เราชอบ หากติดฝนในร้านกาแฟจะทำให้ยิ่งชอบบรรยากาศ ณ ขณะนั้นเพิ่มขึ้น

~ หลงรักกาแฟเข้าหละสิ ~

เที่ยวเกาะไม้ไผ่ ตอนที่ 1

ปลายเดือนตุลาแล้วนะ ทางภาคเหนือคงเริ่มหนาวแล้วสิ ฟ้าฝนทางภาคใต้ฝั่งอันดามันก็เริ่มซาๆ ไปแล้ว ช่วงมรสุมลมแรงก็เหมือนกับช่วงพักผ่อนของทะเล

ทะเลได้พักเต็มที่ หลังจากนั้นก็จะกลับมาเขียวใสอีก อีกทั้งต้นหนาวอย่างนี้ท้องฟ้าใสใส มีใยเมฆบางๆ มันสวยยยยยมาก (จากการเฝ้าสังเกตมาหลายปี) พี่ๆ น้องๆ ที่ทำงานก็ปรารภออกมาซะดังๆ ว่า "ไปเที่ยวเกาะไม้ไผ่กันไหม ไปเที่ยวเกาะไม้ไผ่กันดีกว่า"

เกาะไม้ไผ่ สระว่ายน้ำเขาให้เอาไม้ไผ่ลงด้วยเหรอ คิดไปไกลอีกว่า จะไปเกาะไม้ไผ่ทำไมให้เมื่อย ห่วงก็มี เสื้อชูชีพก็ยัง เอ๊ะ! หรือจะเอาไปต่อแพแล้วจะไปต่อทำไมให้ลำบาก เรือยางก็มี

เพิ่งมาตาสว่างหลังจากค้นใน Google เอานี่เอง ว่าทะเลอันดามัน ฝั่งกระบี่เขามีเกาะชื่อเกาะไม้ไผ่อยู่ด้วย แหม! ใครจะไปคิดว่าจะมีเกาะ ไม่เคยไปซะด้วยสิ งั้นไปไปไป ไปเที่ยวเกาะไม้ไผ่กันเลย

เรานัดหมายเจอกันที่ท่าเรือรัษฎา เวลาเรือออก 09.00 น. ใครมาหลังให้พายเรือตามไปเองละกัน

เราไปกับเรือลำนี้ เอ่อ เรือใหญ่ลำหลังนะ

การไปเที่ยวคราวนี้เราไปกับเรือ LUXURY BOAT เป็นเรือใหญ่ปรับอากาศหละ อยากจะไป Speedboat เหมือนกันแต่กลัวดำ อันนี้ล้อเล่น แค่อยากไปกันสบายๆ จึงตัดสินใจไปกับเรือใหญ่ปรับอากาศดีกว่า

มีตั้ง 3 ชั้นแหนะ ชั้น 1 ชั้นนี้ที่นั้งเยอะ เอาไว้ทานข้าวด้วย ชั้น 2 จะเป็นเก้าอี้ปรับเอง ชั้น 3 เป็นดาดฟ้า ทั้งสามชั้นพื้นสะอาดมาก นอนได้เลยหละคุณเอ๊ย

บนเรือมีเครื่องดื่มบริการ ขึ้นมาก็ขอจัดกาแฟก่อนเลย

บรรยากาศชั้นหนึ่ง กินกาแฟกันไปเม้าท์มอยกันไป

บรรยากาศชั้นสอง เหมาะกับการปลีกวิเวก

ดาดฟ้าอากาศดี พื้นสะอาดนอนอาบแดดสบายเลย

ห้องน้ำมีทั้งหมด 4 ห้อง

สำรวจเรือกันเรียบร้อย 9 โมงแล้ว ได้เวลาเรือออกเดินทางจากท่าเรือรัษฎาหละ กิจกรรมอย่างนึงที่ชอบทำระหว่างการเดินทาง ก็การเดินดูชาวบ้านบนเรือกัน มาช่วงปลายเดือนตุลาคมมันดีอย่างนี้นี่เอง คนยังไม่เยอะมาก แถมอากาศดีอีกต่างหาก ^^

เรือออกแล้วพี่น้องชาวไทย

อ้าว บอกจะไปดูชาวบ้าน แอบมางีบซะงั้น

ที่นั่งด้านหลังชั้น 2 อากาศกำลังดี

ทางเดิน ข้างเรือเฮียแกแอบมานั่งหามุมถ่ายรูป

สองสาวมายืนรับลมหน้าห้องกัปตัน อย่าบังกัปตันสิ เดี๋ยวแกมองไม่เห็น

แอบมาทำมิวสิคหน้าห้องบังคับคนเดียวเลยนะ

ที่เห็นอยู่ตรงกลางนั้นหนะเกาะไข่นอก ขวามือใกล้ๆ หนะเกาะไข่ใน นี่เราอยู่พังงาแล้วนะ

ทัศนวิสัยดีเราถึงกับมองเห็นเกาะไก่ เผลอแป๊บถึงกระบี่แล้วเหรอนี่

เกาะใกล้ๆ ที่เห็นนี้เกาะยูง

ที่เห็นอยู่ตรงหน้าหนะเกาะไม้ไผ่ ถึงแล้วเกาะไม้ไผ่

น้ำเขียวใสดีจง

หลังจากเพลิดเพลินกับการแอบดูชาวบ้านบนเรือ เดินทางประมาณชั่วโมงครึ่ง เกาะไม้ไผ่ก็ปรากฎอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เราเดินทางมาโดยเรือลำใหญ่ เรือไม่สามารถเข้าใกล้เกาะไม้ไผ่ได้มากนะ ต้องต่อเรือเล็กเข้าไป แต่แค่เห็นน้ำทะเลสวยใส อยากจะกระโดดลงไปใจจะขาด

( เที่ยวเกาะไม้ไผ่ ตอนที่ 2 คลิกเลย )

แจกฟรี สติ๊กเกอร์ขอโทษที่ขับช้า

เราว่าต้องเคยเป็นกันบ้างหละ สำหรับคนชอบเที่ยวอย่างเราๆ เวลาไปต่างเมือง ขับรถขับราไปเอง หรือไปเช่ารถขับกันเอง

ถึงแม้รถอาจจะเหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนกันนี่สิคือถนนหนทาง ขับไปงมทางไป งกงกเงิ่นเงิ่น ใครเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเราเพิ่งมาเป็นครั้งแรก จะโดนด่าเอาซะป่าว

ด้วยความที่โดนมาเยอะจึงหาทางแก้ปัญหาง่าย ก็แค่บอกเขาไปนะ ผมขอโทษ ผมเพิ่งมาเป็นครั้ง Y^Y เห็นใจผมหน่อย ผมไปไม่ค่อยถูก จะบอกไงดีหละ

เอานี่ไปก่อนเดินทางไปเมืองไหน เข้าเขตเมืองเมื่อไหร่ แปะไว้ที่หลังรถนะ เขาจะได้รู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจ เห็นใจหน่อยนะ ^^ โหลดเอาไปใช้ได้เลย แจกฟรีจ้า

สติ๊กเกอร์ขอโทษที่ขับช้า

แสงแรกกับทะเลหมอก

ใกล้สิ้นปีอีกแล้ว ถึงสิ้นปีทีไรตัวก็เริ่มคันๆ ที่คันไม่ใช่เพราะผิวแหังเพราะอากาศหนาวหรอกนะ ที่คันเพราะอยากจะเอาตัวไปกระแทกลมหนาวให้ปากแตกจริง

ฉันคิดถึงลมหนาว เพื่อนๆ หลายคนมักจะยั่วโดยการเอาหมอกยามเช้า และทะเลหมอกออกมายั่วฉันเสมอ จนฉันละเมอและทนไม่ไหว

ในที่สุดก็พาตัวเองมายืนอยู่บนยอดภูทอกจนได้ แม้จะตื่นเช้าหน่อยเพราะต้องเดินทางจากที่พักในเชียงคานมาถึงยอดของภูทอก แต่ขอบอกไม่เหงาหรอกนะ เพราะบนยอดมีคนมารอดูเป็นร้อย

เมื่อแสงแรกสาดส่องมา มันก็คุ้มค่ากับการรอคอย "อรุณสวัสดิ์ภูทอก" เดี๋ยวจะส่งไปให้เพื่อนมันดูมั่ง



ชื่อภาพ : แสงแรกกับทะเลหมอก
แนวคิด : แสงแรกมา ความมืดสลาย ทะลเหมอกผ่อนคลาย
กล้อง : Canon 350D
Lens : 10-20 mm.
Focal Length : 10 mm.
รายละเอียด : f/5, 1/40 Sec., ISO-1600
การวัดแสง : Average
WB : Auto
Process : ใช้ Photoshop ปรับ Sharpen และความสว่าง และปรับความสดของสีในภาพ
สถานที่ถ่ายภาพ : ภูทอก จังหวัดเลย
Photo by : thailerd (THANAWUT MAKAWAN)

การวางโครงสร้างให้กับเวบไซต์เรา

เรามาปรับแต่งเวบไซต์ให้ติดอันดับ Google กันดีกว่า เริ่มแรกมันอยู่ที่การวางโครงสร้างของเวบไซต์ แล้วโครงสร้างของเวบไซต์คืออะไรหนะเหรอ แล้วมันสำคัญยังไงหละ

โครงสร้างของเวบไซต์มันสำคัญที่ทำให้เราเห็นภาพโดยรวมของเวบไซต์เรา ทำให้เห็นว่าเวบไซต์เรานั้นประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง ง่ายต่อการดูทิศทางของเวบไซต์

การออกแบบโครงสร้างเวบไซต์ คือการจัดหมวดหมู่ และลำดับของเนื้อหา โครงสร้างเวบไซต์ที่ดีทำให้ผู้เข้าชมเวบไซต์ไม่สับสน ค้นหาข้อมูลได้ง่าย และเป็นมิตรกับโรบอทที่เข้ามาเก็บข้อมูล

เทคนิคในการสร้างเวบไซต์ให้ติดอันดับ Google

1. ทำโครงสร้างให้ดูง่าย ไม่สลับซับซ้อน ลองคิดถึงเวลาเข้าไปสถานที่สักแห่งสิ หากเรามีแผนที่ที่ดี มีป้ายบอกทางที่ดี เราก็สามารถเข้าไปหาของที่ต้องการง่ายๆ

2. หน้าเพจไม่ต้องยาวมาก เพราะอะไรนั้นเหรอ เพราะโรบอทบางทีมันก็ไม่ชอบเก็บอะไรที่เยอะๆ นะ โรบอทชอบหน้าเพจสั้นๆ สามารถทำการเก็บข้อมูล ได้รวดเร็วกว่าหน้าเพจที่มีเนื้อหายาวๆ

มาเช็คความฮอตของเวบไซต์เรากัน

ข้อควรรู้ของการทำ SEO การจะทำให้เวบฮอตฮิตติดลมและโด่งดัง สิ่งที่ช่วยอีกอย่าง นั้นคือ Link จากเวบไซต์อื่นที่ Link เข้ามาหาเราซึ่งเราเรียกว่า "Link Popularity"

Link Popularity คืออะไร

Link popularity เป็นค่าที่บอกจำนวน ว่ามีกี่เว็บไซต์ หรือกี่เว็บเพจของเว็บไซต์อื่นๆ ที่เชื่อมโยงลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา

Link Popularity

ความสำคัญของ Link popularity ?

1. การที่มี Link เข้าหาเว็บไซต์มาก ทำให้โอกาสที่ Robot ของ Search Engine เข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์มีมาก
2. เพิ่มโอกาส และ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
3. เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์

เราสามารถเช็ค Link popularity ได้ด้วยคำสั่งดังนี้

1. Google ใช้การค้น เป็น link:ชื่อเวบไซต์เรา.xxx เช่น
link:phuketgraphics.blogspot.com

2. bing ใช้การค้น เป็น link:ชื่อเวบไซต์เรา.xxx เช่น
link:phuketgraphics.blogspot.com

3. Yahoo ใช้การค้น เป็น link:http://ชื่อเวบไซต์เรา เช่น
link:http://phuketgraphics.blogspot.com

แต่ประโยชน์อีกอย่างของ Link popularity คือทำให้เรารู้ว่ามีเวบไหนที่ลิ้งค์หาเราบ้าง ลองเอาไปใช้ดู บางครั้งเราก็ได้เจอกับเวบไซต์อะไรก้ไม่รู้ที่ลิ้งค์มาหาเรา

Google Doodles วันที่ 12 สิงหาคม 2557

12 สิงหาคม ของทุกปี ชาวไทยทุกท่านคงจะทราบกันดีว่าเป็น "วันแม่แห่งชาติ"  

Google จึงเปลี่ยนหน้าแรก เป็นรูปที่คุณแม่กำลังเล่านิทานให้ลูกๆ ฟังอยู่ มันดูอบอุ่นจริงๆ นะแต่เอ๊ะมาถึงตอนนี้ก็อยากรู้แล้วสิว่า หน้า Google ของประเทศอื่นๆ เขาจะเปลี่ยนด้วยไหม หรือจะมีแค่เฉพาะประเทศไทยเราเท่านั้น ถึงจะมีแต่ประเทศไทยก็ยังดีที่เขารู้ว่าวันนี้สำคัญยังไง

Google Doodles 12 August 2014

วันแม่อย่าลืมรักแม่คนอื่นด้วยหละ ส่วนแม่ของเรานั้น วันแม่คือทุกๆ วันอยู่แล้ว ^^

แสงแรก

หลังจากที่ฝนตกติดต่อหลายวันเป็นเวลาเนิ่นนาน เวลาเที่ยงวันในแต่ละวันที่ผันผ่าน จึงจะได้ยลแสงสาดส่องร่องเมฆมา

ฉันคิดถึงแสงแรก แสงแรกของวันที่สาดแสงแยงทะยานจากขอบฟ้าขึ้นมา แสงแรกของวันที่นำทางให้เรือลำน้อยค่อยค่อยทยอยเข้าฝั่ง แสงแรกของวันที่วิหคนับพันส่งเสียงขานรับพร้อมหมู่สรรพ ฉันคิดถึงมัน

หลังหมดฝน ทนกัดฟันดันตัวเองให้ลุกจากที่นอนแต่หัวรุ่ง เพื่อมุ่งไปยังปลายแหลมสะพานหินก่อนที่แสงแรกจะมา อากาศเย็นชื้น คงเพราะฝนที่หล่นมาเมื่อคืน

เมื่อแสงแรกสาดส่องมา มันก็คุ้มค่ากับการรอคอย "อรุณสวัสดิ์ภูเก็ต"


ชื่อภาพ : แสงแรก
แนวคิด : แสงแรกมา ความมืดสลาย
กล้อง : Canon 350D
Lens : 10-20 mm.
Focal Length : 10 mm.
รายละเอียด : f/14, 4 Sec., ISO-100
การวัดแสง : Average
WB : Auto
Process : ใช้ Photoshop ปรับ Sharpen และความสว่าง และปรับให้เป็นภาพขาวดำ
สถานที่ถ่ายภาพ : สะพานหิน จังหวัดภูเก็ต
Photo by : thailerd (THANAWUT MAKAWAN)

แจกฟรี กราฟิกเวกเตอร์ เดือนสิงหาคม 2557

แจกฟรีไฟล์เวกเตอร์สำหรับใช้ทำงานกราฟิคต่างๆ เซตนี้เป็นแบบเงาแสดงเพียงโครงสร้างภายนอก และรูปทรงต่างๆ


สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี้  ดาวน์โหลด


สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี้  ดาวน์โหลด

Infographic Animation เท่ๆ

มีงาน Infographic Animation เท่ๆ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นมาให้ดูกัน เท่ เรียบง่าย และเข้าใจ

พลิ้วไสว

ระหว่างลอยคอรอเพื่อนอยู่กลางทะเล คุณคิดถึงอะไร คิดถึงเมื่อวาน หรือคิดถึงพรุ่งนี้

ช่วงปีที่ผ่านมาเรือลำที่ชื่อว่า "ประเทศไทย" ต้องเผชิญกับคลื่นลมที่โหมกระหน่ำมามากมาย แม้คลื่นลมภายนอกจะรุนแรงสักเท่าไหร่ เรือลำนี้ก็ฝ่าฟันไปได้ จนมาวันนึงเมื่อลูกเรือทะเลาะวิวาท แตกคอกันเอง ทำให้เรือลำนี้ซวนเซเขวออกนอกเส้นทาง โดนเรือลำอื่นแซงไป ได้แต่ลอยอยู่แต่ที่เดิม

ธงชาติจะคงปลิวไสว ยังคงปลิวไปตามแรงลมที่พัด ยังมีลมเรือก็ยังสามรถลอยไปข้างหน้าได้ วันนั้นคงมาถึงในเร็ววัน


ชื่อภาพ : พลิ้วไสว
แนวคิด : พลิ้วไสว อยู่ยั้ง ยืนยง
กล้อง : Canon 350D
Lens : 10-20 mm.
Focal Length : 14 mm.
รายละเอียด : f/13, 1/320 Sec., ISO-100
การวัดแสง : Centerweighted Average Metering
WB : Auto
Process : ใช้ Photoshop ปรับ Sharpen และความสว่าง
สถานที่ถ่ายภาพ : บนเรือระหว่างเดินทางไปทะเลแหวก
Photo by : thailerd (THANAWUT MAKAWAN)

เที่ยวเชียงคาน ฉันจึงมาหาความหนาว

หลังจากพลาดหวังไปสองสามครั้ง ในที่สุดโปรแกรมเที่ยวเชียงก็เดินทางไปได้ด้วยดี คิดถึงเชียงคานจนหายอยาก

เดินทางจากภูเก็ตโดยเครื่องบินแอร์เอเชีย14.40 น. ถึงอุดรตอน 16.25 น. พอประตูขาออกของท่าอากศยานเปิดออก ลมหนาวที่ยังคงมีอยู่ก็ลอยออกมาต้อนรับคนที่มาหาความหนาว กำลังดี กำลังดี (คิดในใจ)

การเดินทางจากสนามบินอุดรไปโรงแรมนั้นได้ติดต่อกับทางโรงแรมให้จัดรถมารับไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับคนที่ยังก็อาจจะใช้บริการ รถตู้ในบริเวณนั้นเดินออกมาก็เจอคิวรถตู้ทันที เรื่องราคาอยู่ที่ระยะทางที่รถไปส่ง

อุดรจ๋า มาถึงแล้วจ๊ะ

รถตู้ลีมูซีนบริการรับเข้าเมือง

เพียงชั่วอึดใจเราก็เดินทางจากสนามบินมาถึงที่พักแล้ว สำหรับแผนคราวนี้คืนแรกและคืนสุดท้ายจะพักที่เดียวกัน หลังจากการสืบหาข้อมูล และทำการเปรียบเทียบที่พักจึงตกลงปลงใจเอาที่ มัชเฌ มันตา บูธีคโฮเต็ล ตอนที่ทำการจองไปแล้วนั้นก็คิดไว้ในใจขอให้โรงแรมดีทีเถิดดด และก็ดีจริงๆ ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งหาของทาน

หลังจากเช็คอินก็ได้แผนที่ เทศบาลเมืองอุดรธานี คราวนี้หละจะเดินให้ปรุเลย (อันนั้นก็ว่าไป)

มัชเฌมันตา บูธีคโฮเต็ล ที่พักเราคืนแรกที่อุดร

ภายในห้องพัก

ห้องน้ำ เล็กๆ แต่ครบครัน

บรรยากาศจากห้องพัก เปิดหน้าต่างลมเย็นก็พัดมาเลยหละ

หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อย สำรวจห้องพัก นั่งนอนยืดหลังจนพอใจก็ได้เวลากางแผนที่ ออกไปสำรวจเมืองอุดรกันดีกว่า จุดหมายปลายทางคือหาอะไรกินเป็นมื้อแรกที่อุดร

กางแผนที่สำรวจเส้นทาง และสอบถามจากเจ้าหน้าที่โรงแรมอีกนิดหน่อย ระยะทางจากโรงแรมที่พักไปห้างเซนทรัล และ UD TOWN ไม่ไกลนัก สำรวจเมืองไปถึง UD TOWN ก็คงหิวพอดี งั้นกางแผนที่ก็ออกเดินกัน

แผนที่ เทศบาลอุดรธานี

จบมื้อเย็นวันนี้ มื้อแรกที่อุดรเป็นข้าวหมูแดงที่ UD TOWN ชมเมืองอีกนิดหน่อยก็นั่งรถสกายแลปกลับโรงแรมค่ารถ 60 บาท (อันนี้สามารถต่อรองราคากันได้ วันหลังเหลือ 40 บาท จากเซนทรัลมาที่พักเป็นประสบการณ์) คงต้องรีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าเพื่อจะต้องเดินทางไปเชียงคานต่อ ราตรีสวัสดิ์อุดรธานี

ตื่นเช้ามาหลังจากทานมื้อเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยก็ทำการเชคเอ้าท์ จุดหมายปลายทางของการนอนคืนนี้ที่เชียงคาน

อรุณสวัสดิ์อุดรธานี

รถสกายแลป ที่จะพาเราไป

เรียกรถสกายแลปจากหน้าโรงแรมให้ไปส่งที่ บขส. 2 ค่ารถ 80 บาท มาถึงบขส. 2 มีรถบัสเมืองเลยกำลังจะออกพอดี จ่ายค่าสกายแลปเรียบร้อยก็ถลาขึ้นรถบัสสาย 220 อุดร – เมืองเลยทันที (ค่ารถคนละ 100 บาท)

เราไปเลยกับรถคันนี้

วันอาทิตย์คนน้อย

เราเดินทางจากอุดร 09.00 น. รถแวะเข้าบขส. หนองบัวลำภูเมื่อเวลา 09.42 หลังจากนั้นก็เคลิ้มหลับมาถึง บขส. จังหวัดเลยก็ยามเที่ยงพอดี พอดีที่เห็นรถ 2 แถวไปเชียงคานผ่านไปต่อหน้าต่อตา นั่งแกร่วไป 1 ชั่วโมง สำหรับคิวรถ 2 แถวไปเชียงคานนั้นจะต้องเดินไปอีกหน่อย อยู่ด้านหลังของบขส. จังหวัดเลย

บ่ายโมงก็ได้เวลาเดินทางจากบขส.เลย ไปเชียงคานกัน (สำหรับวันอาทิตย์ รถเข้าเชียงคานจะน้อย อันนี้พี่ คนขับบอกมา)

นั่งเศร้าเพราะเราตกรถเที่ยงที่คิวรถ 2 แถวไปเชียงคาน

คันนี้แหละจะพาเราไปเชียงคาน

จากบขส.เลย มาถึงเชียงคานประมาณ 14.30 น. ใช้เวลาเดินทาง ชั่วโมงครึ่ง นั่งหลับกันเมื่อยคอ ค่ารถ 2 แถวคนละ 35 บาท ลงจากรถ 2 แถวก็มีสกายแลปเรียกให้ใช้บริการ สำหรับราคาเข้าที่พักแล้วแต่ความใกล้ไกล ก่อนลงจากมอไซค์พี่แกก็ให้นามบัตรเผื่ออยากไปเที่ยวที่ไหนสามารถโทรเรียกใช้บริการได้

แดดยังร้อนขอนอนยืดหลังให้เต็มที่ก่อน สำหรับที่พักบ้านริมโขง ด้านหลังเห็นทิวทัศน์แม่น้ำโขงชัดเต็มตา ที่ถูกใจคือเครื่องทำน้ำอุ่น มาช่วงนี้น้ำเย็นมาก

บ้านริมโขง ที่พักเรา

บรรยากาศภายในห้องพัก

ที่พักอยู่ติดริมโขงเลย  แดดดีมีผ้าเยอะเชียว

นอนยืดเส้นแก้เมื่อสักพัก แดดหลบร้อนไปแล้ว ออกไปเดินยื้อเส้นกันดีกว่า เสน่ห์ของคานอยู่ที่วิถีชีวิต และบ้านเรือนที่มีสภาพดั้งเดิม อาคารที่สร้งมาใหม่ก็จงใจที่จะสร้างให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบเดิมที่มีมา

บ้านเก่าที่ยังอยู่

ตึกที่สร้างใหม่ แต่ตั้งใจให้เข้ากับแบบเก่า

เย็นย่ำอากาศเริ่มเย็น อากาศหน้าเดินเล่นเป็นที่สุด

มองเมืองเชียงคานมาจากฝั่งโขง

ฝั่งโขงยามตะวันใกล้ลับลำน้ำ

ก่อนหลบลงน้ำขอแปลงร่างเป็นไข่แดงนะ

บรรยากาศยามเย็นริมฝั่งโขง ในหน้าหนาวช่างสวยจริงๆ เราเคลิ้มไปกับแสงตะวันก่อนจะทิ้งตัวลงน้ำโขง มองไปริมฝั่งก็มีผู้คนออกมาถ่ายรูปลาตะวันเต็มไปหมด

ลาตะวันเรียบร้อยออกไปหาไรกินที่ถนนคนเดินต่อ พ่อค้าแม่ค้าเล่าให้ฟังว่าหากเป็นเสาร์-อาทิตย์ ช่วงหยุดยาว ถนนคนเดินไม่ต้องเดินเลยหละ ใช้วิธีไหลไปแทน เพราะคนเยอะมาก ไปเดินหาข้าวเปียกกินก่อนนอน คืนนี้หลับฝันดี

ถนนคนเดิน คนเยอะแยะ

ของฝากยอดนิยม อิอิอิ

มาแล้วต้องลอง “ข้าวเปียก” อาหารอร่อยของเชียงคาน

ตื่นเช้ามาตั้งแต่ตี 5 นัดรถสกายแลปไว้จะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ที่ภูทอก อากาศเหนาวจนหูลู่ หูชาเพราะหนาวหมดความรู้สึกไปเลยหละ วิญญาณชาวอุตุนิยมไม่ยอมออกจากร่างง่ายๆ แต่ล้างหน้าทีเดียวตาสว่างขึ้นมาเชียว

พี่สกายแลปก็มาตรงเวลาเหลือเกิน จาการต่องรองราคาเหมารถเที่ยวภูทอกและแก่งคุดคู้ อยู่ที่ 360 บาท/คัน แต่ถ้าไปภูทอกจะมีค่ารถพาขึ้นภูอีกคนละ 25 บาท ไปไปกัน

มีรถบริการพาขึ้นภูทอก คนละ 25 บาท

ไม่ต้องกลัวว่าจะเหงา เพราะมีคนขึ้นไปภูทอกเยอะมาก ตรงจุดชมวิว คนเป็นล้าน หาเหลียมไม่มีคนยากมาก มืดก็มืด หนาวก็หนาว แอบอิจฉาคนเดินกุมมือกันมากๆ ก็ตอนนี้แหละ

รอไม่นานตะวันที่เพิ่งลาเราไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ก็โผล่ออกมาทักทายอีกครั้ง ขึ้นแดงเหมือนเมื่อตอนลง คงเป็นดวงดีกันแน่ ชั่วขณะนั้นก็ได้ยินแต่เสียงของกล้องรู้สึกคุ้มขึ้นมาทันใด

รอรับตะวัน

แหนะ แหนะ ขึ้นแดงมาแล้ว

กว่าจะขึ้นหละน๊าน นาน บทจะสว่างหละแป๊บบบบเดียว

สวัสดีภูทอก

ส่งท้ายภูทอก กับตะวันสาดแสง

ลงจากภูทอกอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาดคือแก่งคุดคู้ ระหว่างที่ไปหมอกก็หนาได้ใจ เรื่องหนาวนี้ พูดกันเป็นไอ แก่งคุดคู้จึงเต็มไปด้วยสายหมอก

พี่พี่ หาปลาคนเดียว ไม่หนาวบ้างเรอะ

ออกจากแก่งคุดคู้ เราก็กลับที่พัก กินข้าวกินปลา เก็บข้าวของ เพื่อที่จะได้ทันรถ 2 แถวเที่ยว 10 โมง ทริปเร่งไปนิด แต่คิดไว้แล้วว่าจะกลับมาแอ่วใหม่นะเชียงคาน

เชียงคานจ๋า เดี๋ยวจะกลับมาใหม่