ทำไมดีไซน์เนอร์ต้องเขียนบรีฟ
คงมี คำถามผุดขึ้นในใจคุณว่า เป็นดีไซน์เนอร์ทำไมต้องเขียนบรีฟด้วยหรือ แค่มีผลงานมาโชว์เป็นใบเบิกทางก็น่าจะพอแล้ว
แต่ความจริงแล้วการเขียนบรีฟหรือการจัดทำแผนการดำเนินงานนั้น คือลายแทงที่จะทำให้งานของคุณไปสู่เป้าหมายได้รวดเร็ว พร้อมด้วยประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น การเขียนบรีฟยังเป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่างนักออกแบบเช่นคุณและ ลูกค้า ตลอดจนผู้ร่วมงานในฝ่ายอื่น ๆ ให้มีความเข้าใจ... โดยรายละเอียดที่คุณควรเขียนลงไปนั้นก็คือขั้นตอนการทำงานต่างๆ ของการทำงานของคุณนั่นเอง
เริ่มด้วยการแนะนำ Company Profile ด้วยใจความสรุปสั้น ๆ ไม่ต้องสาธยายให้ยืดยาวมากนัก อาทิ บริษัทคุณนั้นขายผลิตภัณฑ์หรือบริการอะไรบ้าง ปรัชญาการดำเนินงาน อธิบายถึงจุดแข็งและจุดเด่นของบริษัทคุณ โดยอาจจะมีการใส่ประวัติ...บริษัทลงไปด้วย
หลังจากนั้นก็เริ่มบรรเลงเข้าถึงเรื่องโครงการที่คุณกำลังดำเนินการอยู่ โดยไม่ลืมที่จะเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายของการทำงานชิ้นนี้ ซึ่งการเขียนบรีฟจะช่วยทำให้คุณและลูกค้าเห็นภาพได้ชัดขึ้นในสิ่งที่คุณต้อง ทำ เช่น การออกแบบเอกสารประเภทไดเร็คเมล์ นั้นเหมาะสำหรับช่วงที่มีโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนงานออกแบบเว็บไซต์เพื่อเป็นหน้าร้านอีกแห่งหนึ่งก็เหมาะสำหรับเจาะกลุ่ม ลูกค้าคนรุ่นใหม่ หรือแม้แต่การรีแบรนด์ สามารถสะท้อนให้เห็นความมีการเคลื่อนไหวของลูกค้า
ลำดับต่อมาคือการหากลุ่มเป้าหมาย โดยตั้งต้นจากการหาลูกค้ากลุ่มหลัก รวมทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ต้องการจะขยายไปถึง ซึ่งวิธีการเช่นนั้นจะทำให้คุณหรือฝ่ายออกแบบสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะรู้แล้วว่าจะผลิตงานให้กับคนแบบไหน อีกเรื่องที่ไม่ควรลืม เพราะสำคัญพอ ๆ กันก็คือการตั้งงบประมาณและเขียนตารางกำหนดการส่งงาน เพื่อให้คนออกแบบได้รู้ว่าตัวเองมีเดดไลน์เมื่อไหร่
สุดท้ายหลังจากคุณลองวางแผนงานและจัดทำเป็นบรีฟเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมลองตรวจสอบหรือประเมินผลดูด้วย หลังจากที่คุณได้ดำเนินงานตามแผนงานที่ลงมือเขียนไว้ว่าเป็นผลสรุปเป็นไง บ้าง เพื่อจะได้รู้ว่าวิธีนี้เวิร์คหรือไม่เวิร์คแค่ไหนนั่นเอง
- มิถุนายน 30, 2553
- 0 Comments