บันได 10 ขั้น สู่การเป็นนักขายภาพ Shutterstock

มีนาคม 31, 2557

บันได 10 ขั้น สู่การเป็นนักขายภาพ Shutterstock

ใครชอบถ่ายรูปมั่ง แล้ววาดรูปหละ คนที่ชอบถ่ายรูปคงมีคำถามค้างในใจอยู่เหมือนกันใช่ไหม ว่าจะถ่ายรูปไปทำไม นอกจากชอบถ่าย อย่ากระนั้นเลยเรามาเปลี่ยนรูปถ่ายให้มาเป็นรายได้เข้ากระเป๋าเรากันดีกว่า เผื่อจะได้เป็นค่ารถหรือค่าอุปกรณ์เพิ่ม




สำหรับกราฟฟิคดีไซน์อย่างเราๆ ที่การแข่งขันค่อนข้างสูงมาก แถมยังเป็นฟรีแลนซ์อีก รายได้มันก็ลุ่มๆ ดอนๆ (แต่อยากขอให้ดอนมากกว่า)ก็มีสเกตซ์รูปและแบบที่ลูกค้าไม่เอาเยอะแยะ งั้นเราก็มาเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให่มาเป็นรายได้เหมือนกันดีกว่า เอาเก็บไว้ในเครื่องให้เสียดาย เรามาดู 10 หนทางของการเป็นนักขายภาพสต๊อกกัน

บันได 10 ขั้น สู่การเป็นนักขายภาพ Shutterstock

1. ต้องสมัครทันที
อย่ารีรอ เพราะถ้าคิดว่าเอาไว้ก่อนคุณจะลืมมันไป มารู้ตัวอีกทีคนอื่นก็ขายกันไปหลายหมื่นแล้ว สุดท้ายจะมานั่งเสียดายถ้าสมัครไปตั้งนานป่านนี้ขายไปถึงไหนๆแล้ว หรือไม่ก็ถอดใจไปเลย อย่ากลัวมีแต่ได้ไม่มีเสีย

2. สอบให้ผ่าน
ขั้นตอนนี้ยากและปวดใจที่สุด ต่อให้เป็นคนที่มั่นใจแค่ไหนก็ต้องหวั่นใจบ้าง จริงๆแล้วมันง่ายมากถ้าคนที่สอบผ่านแล้วมาส่งภาพขาย จะรู้ว่าแค่ 7 ภาพไม่ยากเลยเพราะ ตอนนี้ส่งขายกันไปเกือบ 1000 ภาพแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้สอบ ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดี มีการสอบถามจากคนที่ขายภาพแล้วหลายๆคนให้ยืนยันตรงกันว่าภาพที่จะส่งจะผ่านชัวร์แล้วค่อยส่งเพราะไม่งั้นต้องรออีก 1 เดือนหลายคนถอดใจไประหว่างรอแต่ถ้าไม่ถอดใจ ระหว่างรอสะสมภาพรอเลยเป็นร้อยภาพถ้าสอบผ่านลงรวดเดียวเป็นร้อยก็ได้เช่นกัน

3. มีมากกว่า 100 ภาพใน Gallery
สะสมภาพไปเรื่อยๆใน Gallery ของเราจนครบ 100 ภาพโดยไม่ต้องสนใจยอดขาย เพราะในช่วงแรกจะวัดอะไรไม่ได้ ไม่ต้องห่วงว่าจะได้วันละเท่าไหร่หรือบางวันขายไม่ได้ หรือบางวันฟลุคขายได้เยอะก็มี มันเป็นภาพลวง เพราะที่นี่จำนวนภาพสำคัญมาก เมื่อผ่าน 100 ภาพใน Gallery เราจะเห็นยอดขายเป็นรูปธรรมมากขึ้น วันละ 10-20 โหลดเป็นปรกติ

4. ยอดรวมเกิน 100$
เมื่อผ่าน 100 ภาพใน Gallery จะใกล้เคียงกับ เงิน 100$ แรกจะเข้ามาตอนสิ้นเดือนของเดือนที่ยอดรวมทั้งหมดเกิน 100$ นี่คือกำลังใจแรกของเรา มาถึงจุดนี้คุณจะเกิดกำลังใจอย่างมาก และเห็นเลยว่ามันเกิดขึ้นได้จริง ไม่ใช่งานอดิเรกอีกต่อไป บางคนเดือนแรกก็ได้แล้ว

5. มีมากกว่า 500 ภาพใน Gallery
ขั้นตอนนี้จะเหนื่อยที่สุด เพราะจะต้องรวบรวมภาพให้มากที่สุด หลายคนจะอยู่ในช่วงวิกฤตคือภาพหมด จุดนี้คือจุดที่หลายคนต้องเริ่มมองหาหนทางในการถ่ายภาพและสร้างงานใหม่ๆ รวมถึงจะพบปัญหาว่าภาพแนวเดิมๆจะเริ่มส่งไปขายไม่ผ่านเพราะเราเริ่มจะตัน แต่ถ้าคุณอดทนสะสมภาพจนผ่านจุดนี้ไปได้ จะเริ่มเข้าใจตลาดและสร้างงานใหม่ๆได้ทุกวัน

*** ขั้นที่ 5-6 อาจจะสลับกันได้สำหรับบางคน

6. ยอดรวมเกิน 500$
ถ้ามียอดเงินรวมของคุณสะสมเกิน 500$ เปอร์เซ็นต์ที่ได้จากการขายจะเพิ่มขึ้นอีก 30% จาก 0.25$ เป็น 0.33% on demand จาก 1.88$ จะเพิ่มเป็น 2.48$ ยอดขายจะเพิ่มขึ้นมากจนคุณตกใจ เพราะไม่เพียงยอดขายเพิ่มเท่านั้น ถ้าคุณมาถึงจุดนี้แสดงว่าภาพคุณต้องขายได้มากอยู่แล้ว ยอดเิงินก็ยังเพิ่มขึ้นอีกทวีคูณ

7. มีมากกว่า 1000 ภาพใน Gallery
หลังจากผ่าน 500$ มาแล้วคุณจะกลายเป็นนักขายภาพเต็มตัว และจะเข้าใจระบบทุกอย่างในการขายภาพแล้ว ตอนนี้สะสมภาพอย่างเดียว อย่าหยุดการส่งเด็ดขาดไม่งั้นต้องเริ่มต้นใหม่นานมากกว่าจะให้กลับมาเท่าเดิม *** ย้ำว่าห้ามหยุดส่งควรมีภาพส่งทุกสัปดาห์ หากเวลาน้อยก็ทำสต็อคทิ้งไว้เก็บไว้ส่งอย่างน้อยสัปดาห์ละ 20 รูปก็ยังดี เมื่อผ่าน 1000 ยอดขายภาพปรกติ on demand และ enhance จะมากขึ้น จนหลายคนได้แค่ภาพ on demand กับ enhance ก็ตกเดือนนึง 200-300เหรียญแล้ว เมื่อถึงจุดนี้รายได้หลักหมื่นต่อเดือนจะเป็นเรื่องปรกติ

8. ยอดรวมเกิน 3000$
เชื่อว่าถ้ามีภาพใน Gallery หลักพันแล้วและยังส่งอย่างต่อเนื่อง ผมลองคำนวณดูจากคนที่มีภาพหลักพัน จะมีรายได้เดือนนึง 400-500$ จะทำรายได้ถึง 3000$ ได้ใน 6 เดือน ถึงจุดนี้เปอร์เซ็นต์เราจะเพิ่มขึ้นอีก 10%

9. มีมากกว่า 3000 ภาพใน Gallery
ถึงจุดนี้คงไม่ต้องบอกอะไรแล้ว เป็นการปักธงว่านี่คืออาชีพอย่างแท้จริง

10. ยอดรวมเกิน 10000$
เป็นธงสูงสุดของ shutterstock เมื่อมีรายได้ 10,000$ เปอร์เซ็นต์การขายจะเพิ่มขึ้นอีก 5% แต่ 5% ของตอนนี้ที่มีรูปเป็นหลักพัน มันคือยอดขายเดือนละหลายร้อยเหรีญที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ถึงจุดนี้ก็ซื้อบ้านซื้อรถกันได้เลย ถ้าขายไปสัก 1-2 ปี

บทความนำมาจาก : http://www.stockphotothailand.com/forums/viewtopic.php?f=11&t=5772

สำหรับใครคิดว่ามันจะขายได้เหรอ งั้นขอให้เข้าไปดูที่นี่ ภาพที่ขายได้ประจำเดือนมกราคม 2557

You Might Also Like

0 comments

Popular Posts

Like us on YouTube

Facebook Images